นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียวในการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลรัษฎากรฯ จัดเก็บภาษี “E-service” หรือ เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากแพลตฟอร์มดิจิทัลจากต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเคยเสนอมาก่อนหน้านี้ หลังได้มีการประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา
โดยกฎหมายการจัดเก็บภาษี E-service นี้จะมีไว้สำหรับผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง และแพลตฟอร์มดิจิทัลจากต่างประเทศที่มาเปิดให้บริการในประเทศไทย โดยไม่มีบริษัทลูกอยู่ในประเทศไทย อย่างเช่น เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น บริการดาวน์โหลดหนัง เพลง เกม และบริการจองโรงแรม เป็นต้น
เพื่อเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ให้บริการที่เป็นแพลตฟอร์มของคนไทย เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในต่างประเทศมีรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่กรมสรรพากรไม่สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เลย โดยกระทรวงการคลังคาดว่าการเก็บภาษี E-service จะสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐบาลไทยได้อย่างน้อย 3,000 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่มีกฎหมายเก็บภาษีในลักษณะนี้ แต่เป็นการตามรอยประเทศอื่นๆ อย่าง ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ที่เริ่มบังคับใช้กฎหมายลักษณะนี้ประสบผลสำเร็จมาแล้ว ซึ่งล่าสุด พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(สคก.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือส่งร่างให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาในลำดับถัดไป นอกจากนี้ ทางกรมสรรพากรเองก็จะเตรียมจัดทำคู่มือการใช้กฎหมายฉบับนี้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเพื่ออธิบายให้แก่ผู้ประกอบการให้เข้าใจทุกขั้นตอน
Credit : rd
Facebook Comments