Password ถือเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้งาน หรือในระบบที่ต้องการความปลอดภัย เพราะ Password เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับยืนยันความถูกต้องของตัวบุคคลนั้นๆ การใช้งาน Password จึงช่วยป้องกันความปลอดภัย การเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบนั้นได้ หากผู้ใช้งานไม่ให้ความสำคัญในการตั้งค่า Password ก็จะทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถคาดเดา Password และเข้าถึงข้อมูลของท่านได้อย่างง่ายดาย
ทาง McAfee ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยแบบบูรณาการ จึงได้ออกมาให้คำแนะนำการตั้งค่า Password อย่างมั่นคงปลอดภัยล่าสุดได้แก่
1. ยิ่งง่ายยิ่งไม่ปลอดภัย
หลายการสำรวจระบุว่า Password ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ “1234567” และ “password” ซึ่งเรียกว่าเป็น Password พื้นฐานที่ง่ายที่สุด Password ที่แข็งแกร่งจำเป็นต้องมีความซับซ้อนและความยาวเพื่อให้การคาดเดาทำได้ยากและเสียเวลาแคร็กนาน แนะนำว่า Password ควรมีความยาวไม่ต่ำกว่า 12 ตัวอักษณและประกอบด้วยตัวเลข ตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่ และอักขระ อาจลองแทนตัวเลขและตัวอักษรด้วยอักขระก็ได้ เช่น แทน “0” ด้วย “O” แทน “a” ด้วย “@“ เป็นต้น
2. ไม่นำข้อมูลส่วนตัวมาตั้ง
หลีกเลี่ยงการเอาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร หรือชื่อสัตว์เลี้ยงมาตั้งเป็น Password เพราะแฮ็กเกอร์สามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้ไม่ยากนัก ถ้าต้องการนำคำภาษาอังกฤษมาใช้ แนะนำให้ใช้เป็นกลุ่มคำ เช่น iLoveBooksOnCrime หรืออาจจะเพิ่มความยากด้วยการแทนที่อักษรและตัวเลขด้วยอักขระก็ได้ เช่น 1L0VEBook$oNcRIM3! ที่สำคัญคือห้ามแชร์ Password แก่คนอื่นโดยเด็ดขาด
3. อย่าใช้ Password เดียวกับทุกอย่าง
ถ้าใช้ Password ซ้ำและแฮ็กเกอร์สามารถคาดเดา Password จากบัญชีใดบัญชีหนึ่งของคุณได้ เขาอาจจะสามารถเข้าถึงบัญชีที่เหลือของคุณได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มีการเผยแพร่ Password ที่หลุดออกสู่สาธารณะบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง แนะนำให้ใช้ Password ที่แตกต่างกันในแต่ละบริการออนไลน์ หรือใช้ Password Manager เข้ามาช่วยในการจดจำ Password
4. ใช้บริการผู้จัดการ Password
ในยุคดิจิทัลที่บริการออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิต การสร้างและบริหารจัดการ Password ให้มีความซับซ้อนและไม่ซ้ำกันกลายเป็นเรื่องยาก Password Manager จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยสามารถสร้าง Password ที่มีความยาวและความซับซ้อนให้แต่ละบริการออนไลน์ และจัดเก็บอย่างมั่นคงปลอดภัย นอกจากนี้ แนะนำให้เปิดใช้ Multi-factor Authentication เช่น ใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือ SMS ควบคู่ไปด้วย
5. เพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้แก่คอมพิวเตอร์ของคุณ
เพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยแก่ข้อมูลและอุปกรณ์ของคุณไปอีกขั้น แนะนำให้ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความมั่นคงปลอดภัย เช่น Personal Firewall และ Anti-malware ลงบนอุปกรณ์ของคุณด้วย
Credit : McAfee
Facebook Comments