เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยที่ให้บริการผ่านระบบออนไลน์ต่าง ๆ อยู่ เช่น การให้บริการสมาชิกโหลดภาพยนตร์ หรือเพลง โดยเจ้าของแพลตฟอร์มจะเป็นผู้เก็บ ค่าสมาชิก รวมถึงศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีสปอร์ต เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้มีมูลค่าการตลาดในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีเงินหมุนเวียนในตลาดจำนวนมาก แต่ยังไม่อยู่ในระบบภาษี
ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีช่องทางที่สามารถจัดเก็บภาษีธุรกิจเหล่านี้ได้ เพราะผู้ให้บริการส่วนใหญ่จดทะเบียนจัดตั้งอยู่ในต่างประเทศ และยิ่งการเก็บภาษีจากกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีสปอร์ต นั้นยิ่งทำได้ยาก เพราะตอนนี้อีสปอร์ตถูกจัดอยู่ ในรูปแบบของกีฬาตามพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 รวมทั้งเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการเกมออนไลน์ ต่าง ๆ ยังตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งทางกรมสรรพสามิตและกรมสรรพากร ไม่มีอำนาจไปจัดเก็บภาษีส่วนนี้
ตอนนี้ก็ทำได้เพียงเก็บภาษีจากโรงหนังเท่านั้น เนื่องจากจดทะเบียนในประเทศไทย ส่วนกรณีที่กรมสรรพากรเตรียมออกกฎหมายจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) โดยกำหนดให้ให้นิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ประกอบกิจการโดยการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มีรายได้ และมีกำไร โดยใช้โดเมน เนม (domain name) ท้องถิ่นของไทย ต้องเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทย โดยหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% นั้น ตอนนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเงินในส่วนนี้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บจากธนาคารได้ แต่ไม่สามารถจัดเก็บได้เพราะตามหลักการกรมสรรสามิตจัดเก็บภาษีได้จากผู้ผลิตและผู้ประกอบการเท่านั้น แต่เก็บจากผู้บริโภคไม่ได้
และจากการศึกษาวิธีการจัดเก็บภาษีจากต่างประเทศ ก็พบว่า มีหลายประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีผู้ให้บริการเหล่านี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ มีเพียงสหรัฐอเมริกาที่เก็บภาษีจาก Facebook เพราะจดทะเบียนตั้งบริษัทไว้ที่สหรัฐอเมริกาจึงทำให้เก็บภาษีได้ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตก็จะยังคงศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยนี้ต่อไป แม้ว่าจะมีหลายประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีผู้ให้บริการเหล่านี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม โดยระบุว่าบริการเกม ฟังเพลง ดูหนังออนไลน์เหล่าเข้าข่ายทั้งหมด
Credit : matichon
Facebook Comments