Social Network

ในประเทศญี่ปุ่นนั้น การทำอะไรตามใจตัวเองในที่สาธารณะนั้นถือเป็นเรื่องน่าอายอย่างมาก โดยเฉพาะการทำอะไรที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และก่อให้เกิดความลำบากกับส่วนรวมนั้นถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าควรทำอย่างยิ่ง ทางการรถไฟญี่ปุ่นจึงได้ทำแคมเปญใหม่ โดยการติดตั้งกล้องไว้แถวชานชาลารถไฟ จากนั้นทีมก็จะคอยสังเกตว่ามีผู้โดยสารคนไหนกำลังเล่นสมาร์ทโฟนขณะเดินเข้าใกล้จุดเสี่ยงหรือไม่

งานนี้จะได้สมหวังกันแล้วครับ เมื่อ Facebook เปิดโอกาสให้เพื่อนๆ สามารถใส่ไฟล์วีดีโอเป็นภาพ profile ได้แล้วสำหรับประเทศไทย หลังจากที่ประกาศใช้ในประเทศสหราชอาณาจักร และแคลิฟอร์เนียในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ผมได้ทำการทดสอบด้วยตัวเอง โดยมันสามารถเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆ ความยาว 6 วินาที ซึ่งตอนนี้เปิดเฉพาะผู้ใช้ iPhone

จากกระทู้หนึ่งจากเว็บพันทิป เจ้าของกระทู้เปิดประเด็นว่า “โดนพักงานเพียงเพราะไม่ตอบ LINE กลุ่ม มันสมควรไหม” ซึ่งก็จุดประกายว่ามีหลายเรื่องที่น่าคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรม LINE ของไทยที่น่าเอามาพูดคุยครับ โดยเฉพาะเรื่องการใช้ LINE เพื่อติดต่อในการทำงาน เรื่องราวของเจ้าของกระทู้มีอยู่ว่า เขาเป็นพนักงานชงเครื่องดื่มของร้านหนึ่ง ที่หัวหน้าจะสั่งงาน กระจายงานผ่านไลน์กลุ่ม ซึ่งก็บังคับให้ลูกน้องทุกคนที่เข้าไปอ่านแล้วต้องตอบว่า “รับทราบ”

ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ในญี่ปุ่น ได้ทำไวรัลออกมาเพื่อรณรงณ์ในการใช้สมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า "Samurai Smartphone Parade" โดยในคลิปตัวนี้ทำออกมาเพื่อให้พวกเราเห็นถึงอันตรายจากการใช้โทรศัพท์แบบเดินไปแล้วก็ก้มดูแต่จอ ซึ่งมีทั้งคนเดินชนกัน เดินหล่นน้ำ ลื่นบนพื้นถนน เดินหลงทาง และอีกหลายกรณี

โมโตโรล่าทำการโปรโมทฟีเจอร์เด่นที่น้อยคนจะรู้ของมือถือเครื่องนี้ โดยทีมงานได้เชิญ แอสตัน คุชเชอร์ ดาราหนุ่มมาเป็นผู้ทำการเชิญวัยทีนมาเข้าห้องแล็บทดสอบความใจแข็ง ด้วยวิธีสุดง่าย แค่วางฝ่ามือสองข้างแนบโต๊ะ และเอามือถือไว้ตรงกลาง จากนั้นก็เชิญคนที่อยู่นอกห้องเดี๋ยวส่ง SMS ไปหา เดี๋ยวแกล้งโทรไปหา ให้เจ้าของมือถือเครื่องนั้นเกิดอาการประสาทเสีย

กลายเป็นผลงานภาพถ่ายที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากบนโลกโซเชียล โดยโปรเจคดังกล่าวนี้มีชื่อว่า “SUR-FAKE” เป็นการสะท้อนในประเด็นที่ผู้คนในปัจจุบันนี้ตกเป็นทาสเทคโนโลยี และคอนเซปต์นี้ก็เจ็บจี๊ดโดนใจใครหลายๆ คน โดยผลงานของช่างภาพชาวฝรั่งเศสนามว่า “Antoine Geiger” โดยนาย Antoine Geiger ช่างภาพอายุ 20 ปี ได้นำเสนอผลงานภาพถ่ายภายใต้แนวความคิด

โลกเทคโนโลยีไม่เคยมีการหยุดพัฒนา เมื่อคุณพ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านก็ย่อมเป็นห่วงลูกๆ เป็นธรรมดา เพราะโลกออนไลน์ทุกวันนี้มันอยู่ยากจริงๆ ซึ่งทาง Disney และ Circle ก็เข้าใจหัวอกคุณแม่บ้านยุคใหม่ที่วันนี้ถือเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะเลี้ยงลูก และผัว เอ๊ยสามี.. ก็เลยได้สร้าง app ขึ้นมาเพื่อที่จะมาเป็นตัวช่วยให้ผู้ปกครองสามารถป้องกันเด็กๆ ไม่ให้เข้าถึงเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ตที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาได้

คอนเทนต์ประเภทวิดีโอในตอนนี้เป็นสิ่งที่ Facebook ค่อนข้างให้ความสนใจ ซึ่งใครๆ ก็หันมาทำโฆษณาประเภทวิดีโอกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในกรณีที่ผู้ลงทุนในการทำโฆษณามีงบไม่เพียงพอ อีกทั้งผู้ใช้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำอาจจะไม่สนใจกดดูวิดีโอ Facebook จึงได้ทำโฆษณาทางเลือกประเภท Slideshow ขึ้นมา โดยจะสามารถใส่รูปเข้าไป และแปลงเป็นความยาวของสไลด์โชว์ได้ราว 5 ถึง 15 วินาที

ทาง Facebook ได้ออกจดหมายเปิดผนึกว่าตอนนี้กำลังทำการปรับปรุงนโยบายการบังคับใช้ชื่อจริง และจะเริ่มทำการทดสอบ และปรับปรุงการใช้งานในเดือนธันวาคมนี้ โดยหลังจากกระแสชาวสีรุ้ง และบุคคลทั่วไปเรียกร้องกันเข้ามาอย่างมากมาย ซึ่งถ้านี่เป็นเรื่องจริงมันก็จะดีในแง่ของการเปิดเผยตัวตนที่อาจจะมีมากเกินไปในโลกสังคมออนไลน์ เพราะว่าเนื่องจากยังมีกลุ่มคนอีกมากมาย

Facebook ได้ทำการพัฒนาแท็บ Notifications บนมือถือรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้เฟสบุ๊คบนมือถือสามารถควบคุมการแจ้งเตือนใด้ดียิ่งขึ้น โดยได้ปล่อยคลิปโชว์แท็บที่แสดง Notifications ซึ่งจากเดิมที่แสดงเฉพาะการแจ้งเตือนปกติ ก็จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ มาแสดงเพิ่มเติมด้วยแท็บ Notifications แบบใหม่นี้ จะมีการแสดงการแจ้งเตือนอยู่ด้านล่าง และจะแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น