เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก เมื่อญี่ปุ่นประกาศข่าวการค้นพบแหล่งแร่หายากปริมาณมหาศาลใต้ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่สำรวจพบบนเกาะ Minamitori ซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียวออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 1,900 กิโลเมตร
โดยจากการสำรวจกินพื้นที่กว่า 2,500 ตารางกิโลเมตร ทีมนักสำรวจได้ค้นพบแหล่งแร่ในชั้นโคลนใต้ทะเล เป็นแร่ธาตุที่พบได้ยากในธรรมชาติกว่า 17 ชนิด อันได้แก่ สแกนเดียม, อิตเทรียม, แลนทานัม, ซีเรียม, เพรซีโอดิเมียม, นีโอดิเมียม, โพรมีเทียม, ซาแมเรียม, ยูโรเพียม, แกโดลิเนียม, เทอร์เบียม, ดิสโพรเซียม, โฮลเมียม, เออร์เบียม, ทูเลียม, อิตเตอร์เบียม และลูทีเชียม ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิ ใช้ทำสารเรืองแสง, ใช้ในการผลิตแม่เหล็ก, ใช้ในการสร้างเลเซอร์, ใช้เพื่อผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน และยังสามารถนำมาใช้งานกับอุตสาหกรรมได้หลากหลายประเภทรวมทั้งอุตสาหกรรมไอทีด้วย
จากการประเมินคาดว่าจะมีแร่ธาตุรวมกันประมาณ 16 ล้านตัน โดยในนั้นเป็น REO (Rare Earth Oxide) ซึ่งหมายถึงแร่ออกไซด์ของธาตุหายากถึง 1.2 ล้านตัน ดังนั้นในปริมาณธาตุ 16 ล้านตันดังกล่าว อาจเป็นอิตเทรียม ที่มีมูลค่าใช้ไปได้อีก 780 ปี ยูโรเปียม ใช้ไปได้ 620 ปี เทอร์เบียม ใช้ได้อีก 420 ปี ดีพรอสเซียม ใช้ได้ไปถึง 730 ปี กล่าวได้ว่าเป็นปริมาณแร่ธาตุที่โลกต้องการทั้งสิ้น จากปัจจุบันธาตุเหล่านี้หาได้ยาก และในระยะยาวแล้ว มีแววจะขาดแคลน
ดังนั้นอาจค้ยพบครั้งนี้จะส่งผลใหญ่หลวงต่อโลกเทคโนโลยี นอกจากจะทำให้ญี่ปุ่นมีแร่สำหรับภาคอุตสาหกรรมของตนเองไปอีกนานหลายร้อยปีแล้ว ยังมีแร่อีกเหลือเฟือที่จะป้อนให้กับภาคการผลิตต่างๆ ทั่วโลกไปได้อีกนานหลายร้อยปี เรียกได้ว่าใช้ได้แบบไม่อั้นกันเลยทีเดียว
Credit : japan times
Facebook Comments