มาทำความรู้จัก “Any ID” มันคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?
หลายๆคนอาจจะรู้จัก Any ID กันไปบ้างแล้ว ถ้าใช้เป็นภาษาแบบทางการก็คือ “ระบบการชำระเงินแบบนานานาม” ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National E-Payment) ของรัฐบาล
โดยกระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนทั้งประเทศ ลงทะเบียนระบบการชำระเงินแบบ “เอนี ไอดี” (Any ID) ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป และสิ่งที่ประชาชนต้องใช้ในการลงทะเบียน “เอนี ไอดี” มีอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ 1. เลขที่บัตรประชาชน 2. เบอร์โทรศัพท์มือถือ 3. เลขที่บัญชีธนาคาร
ถ้าให้พูดง่ายๆเลย Any ID ก็คือระบบจ่ายเงินแบบนานานาม ที่รัฐบาลร่วมกับธนาคารต่างๆ ให้เราสามารถผูกเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ เข้ากับเลขบัญชีธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินกับรัฐบาลได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการรับคืนเงินภาษี สวัสดิการจากรัฐ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และอื่นๆ เป็นการโอนเงินโดยตรงผ่านเลขบัตรประชาชนที่ผูกไว้กับ Any ID ไม่ต้องรับเช็ค หรือ นำสำเนาสมุดบัญชีไปยืนยันกันให้วุ่นวายอีกแล้ว ประโยชน์เบื้องต้นของ Any ID จะมีประมาณนี้ คือ
- ใช้รับเงินสวัสดิการจากรัฐบาล หรือเงินคืนภาษีจากกรมสรรพากร เข้าบัญชีที่สมัครและผูกกับบริการ “Any ID” ได้ทันที เช่นการภาษี ค่าเบี้ยเลี้ยงดูผู้สูงอายุ หรือเงินช่วยเหลือเกษตรกร
- การคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปกติกรมสรรพากรจะส่งเป็นเช็คขีดคร่อมทางไปรษณีย์ ปัญหาที่ผ่านมา ผู้รับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ถ้าระบบนี้เข้ามา จะไม่คืนเป็นเช็คคืนภาษีอีก แต่กรมสรรพากรจะโอนเงินผ่านเข้าบัญชีไปเลย
- สำหรับชาวบ้าน เกษตรกร หากรัฐบาลจะช่วยเหลือกรณีประสบภัยพิบัติ หรือผลผลิตตกต่ำ ฯลฯ รัฐบาลก็จะใช้เลขที่บัตรประชาชน โอนเงินผ่าน “Any ID” เข้าบัญชีธนาคารที่เราลงทะเบียนไว้
- สามารถผูกบัญชีธนาคารไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคารของรัฐ ไม่จำเป็นต้องเป็น ธ.ก.ส. ทำให้เกษตรกรสะดวก และมีทางเลือกรับเงินโอนจากรัฐบาลมากขึ้น
- ส่วนผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป หากรัฐบาลจะจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปกติต้องลงทะเบียน และส่งสำเนาบัญชีธนาคาร แต่ต่อไปนี้จะช่วยลดขั้นตอนการลงทะเบียนมากขึ้น ใครเคยลงทะเบียน “Any ID” เอาไว้ก็ใช้รับเงินเบี้ยยังชีพได้ทันที
- รวมทั้งเงินสวัสดิการของข้าราชการ เช่น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด เงินบำนาญพิเศษ ฯลฯ ก็จะโอนเงินผ่าน “Any ID” เข้าบัญชีธนาคารที่เราลงทะเบียนไว้เช่นกัน
- การโอนเงินให้กัน โดยใช้เบอร์มือถือแทนเลขที่บัญชี หมายความว่า ถ้าเราผูกเบอร์มือถือกับเลขบัญชีธนาคารเป็น “Any ID” เดียวกัน เวลาโอนเงินเราแค่กรอกเบอร์มือถือ ก็โอนไปยังบัญชีปลายทาง ที่เป็นธนาคารเดียวกัน หรือคนละธนาคารได้ทันที
ข้อดีของ Any ID
- ใช้เป็นช่องทางรับการโอนเงินต่างๆจากรัฐได้ เช่นการภาษี ค่าเบี้ยเลี้ยงดูผู้สูงอายุ เงินบำนาญ เบี้ยหวัด เงินบำนาญพิเศษ รวมทั้งเงินช่วยเหลือเกษตรกร
- ลดความยุ่งยากของรัฐบาล ทำให้ประชาชนได้รับเงินจากภาครัฐเร็วขึ้น
- ใช้ทำธุรกรรมด้านการเงินได้สะดวกมากขึ้น เพราะใช้การจำเบอร์โทรศัพท์แทน ไม่ต้องจำเลขที่บัญชี
- ค่าธรรมเนียมในการโอนเงินหรือทำธุรกรรมระหว่าง Any ID จะถูกกว่าการโอนผ่านธนาคาร
- สามารถผูกบัญชีธนาคารไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคารของรัฐ
จำเป็นหรือไม่ที่เราจะต้องลงทะเบียน “Any ID”
เนื่องจากเป็นการลงทะเบียนแบบสมัครใจ กระทรวงการคลังไม่ได้บังคับให้ประชาชนทุกคนต้องลงทะเบียน “Any ID” แต่ธุรกรรมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือทางราชการ ต่อไปจะใช้ “Any ID” ในการโอนเงินไปยังประชาชน เพราะฉะนั้น ถึงยังไงเราก็ต้องลงทะเบียน “Any ID” ก่อนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ดี นอกเสียจากทั้งชีวิตเราไม่เคยยื่นแบบภาษีให้กับกรมสรรพากร เพราะเงินได้สุทธิปีละไม่ถึง 150,000 บาท หรือ เราไม่ใช่วัยทอง เป็นผู้สูงอายุที่ต้องได้รับเบี้ยยังชีพจากรัฐบาล หรือหากเราไม่ได้สนใจความช่วยเหลือจากรัฐบาล เราก็คงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาลงทะเบียน “Any ID” ก็ได้
ระบบการชำระเงินแบบนานานาม (Any ID)
You may also like
ค้นหาข่าวสารที่คุณสนใจได้ที่นี่
เรื่องล่าสุด
- ระวัง! “Nudify” แอป AI ลบเสื้อผ้าได้ ใช้เปลื้องผ้าผู้คนจากภาพถ่าย!! 29 ธันวาคม, 2023
- หลังจาก YouTube แบน Ad Blocker หลายคน Uninstall แต่หลายคน Install เยอะขึ้น 21 พฤศจิกายน, 2023
- Apple กำลังพัฒนา Search Engine เป็นของตัวเอง จะสู้ Google ได้หรือไม่! 5 ตุลาคม, 2023
- Facebook เปิดตัวโลโก้ใหม่ เปลี่ยนจนที่ใครๆต้องร้องว้าว! 25 กันยายน, 2023
- YouTube บล็อคไม่ให้เล่นคลิปแล้ว หากใช้ Ad Blocker กีดกันโฆษณาบนเบราว์เซอร์ 18 กันยายน, 2023
Facebook Comments